ใบอนุญาตนำเที่ยวเลขที่ : 11/06333

เวลาทำการ

จันทร์ - ศุกร์ 08.30 - 17.30 น.

ดินแดนแห่งเทพนิยาย เขตเมืองหลวงเดนมาร์ก (Capital Region) PART 1 🧜‍♀️⚓

ดินแดนแห่งเทพนิยาย เขตเมืองหลวงเดนมาร์ก (Capital Region) PART 1 🧜‍♀️⚓

ดินแดนแห่งเทพนิยาย เขตเมืองหลวงเดนมาร์ก ตามรอยในดินแดนแห่งความสุข : ประเทศ เดนมาร์ก

เดนมาร์ก’ ประเทศที่ถูกจัดอันดับโดย The World Happiness Report ปี 2024 ว่า มีความสุขมวลรวมสูงเป็นที่ 2 ของโลก จึงไม่แปลกใจที่นักท่องเที่ยวอยากจะจัดทัวร์ไปเติมเต็มความรู้สึกแบบ ‘ดีต่อใจ’ กับบรรยากาศของการใช้ชีวิตที่อบอุ่น อาหารเลิศรส บ้านเมืองอันทันสมัย สถาปัตยกรรมเก่าแก่ รวมถึงทัศนียภาพอันงดงามอย่างแนวชายฝั่ง ฟยอร์ด (Fjord – ช่องแคบที่มีน้ำลึกและนิ่ง) และหมู่เกาะต่างๆ

ในบทความนี้ เราจะพาไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมสุดฮิตทั้ง 3 ภูมิภาค ได้แก่ เขตเมืองหลวงเดนมาร์ก (Capital Region) และเขตยูดแลนด์กลาง (Central Jutland), เขตยูดแลนด์เหนือ (North Jutland) พร้อมทั้ง เขตซีแลนด์ (Zealand) และเขตเดนมาร์กตอนใต้ (South Denmark) เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจเลือกแพ็กเกจทัวร์เดนมาร์ก ให้เหมาะกับสไตล์ตนเองที่สุด

ทั้งนี้ เนื้อหาจะแบ่งเป็น 3 พาร์ท โดย พาร์ทแรก เราจะพาทุกคนเดินชมภูมิภาคที่งดงามและอัศจรรย์ใจ กับ “ดินแดนแห่งเทพนิยาย : เขตเมืองหลวงเดนมาร์ก (Capital Region)” ถ้าทุกคนพร้อมกันแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางได้

เขตเมืองหลวง เดนมาร์ก (Capital Region)

          หนึ่งในภูมิภาคที่มีอากาศอบอุ่นในฤดูร้อนและไม่เย็นจัดในฤดูหนาว รวมถึงมีวิวทิวทัศน์ที่หลากหลาย ทั้งอาคารบ้านเรือนร่วมสมัย ป่าไม้เขียวขจี ชายหาดที่ขาวสะอาด และทะเลที่สวยงาม ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลที่ตื่นตาตื่นใจ การปั่นจักรยานเล่นภายในตัวเมือง หรือการเดินป่าชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

พร้อมกับสัมผัสบรรยายกาศของนวนิยายอันโด่งดังต่าง ๆ เช่น เงือกน้อย  ลูกเป็ดขี้เหร่ เด็กหญิงไม้ขีดไฟ และอีกมากมายจากนักประพันธ์ชาวเดนมาร์กที่มีชื่อเสียงอย่าง ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน (Hans Christian Andersen) โดยเราขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ดังนี้

กรุงโคเปนเฮเกน (Copenhagen)

กับฉายา “ดินแดนแห่งเทพนิยาย” เมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดในแถบสแกนดิเนเวียที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งของทะเลบอลติก (Baltic Sea) ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญต่อการทำประมง ขนส่งสินค้า และอุตสาหกรรม

อีกทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งในยุโรปที่มีความสวยงาม รวมถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายและวัฒนธรรมที่อบอุ่นซึ่งเหมาะกับการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ทำให้เป็นอีกดรีมเดสติเนชั่นส์ (Dream Destinations) สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

รูปปั้นเงือกน้อย ‘ลิตเติ้ล เมอร์เมด’ (The statue of The Little Mermaid)

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คและสัญลักษณ์แห่งกรุงโคเปนเฮเกนที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเช็คอินและถ่ายรูป โดยเป็นรูปปั้นสำริดรูปเงือกนั่งอยู่บนก้อนหินตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะริมอ่าวโคเปนเฮเกน ซึ่งอนุสรณ์สถานนี้สร้างขึ้นจากตัวละครหลักอย่าง ‘แอเรียล (Ariel)’ ของเทพนิยายชื่อ เงือกน้อย (The Little Mermaid)

เพื่อแสดงถึงผลงานต่าง ๆ และระลึกถึงฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน นอกจากการเก็บภาพแล้ว ทุกคนสามารถหาซื้อโปสการ์ด และของที่ระลึกต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น แม็กเน็ต แก้วน้ำ พวงกุญแจ ในบริเวณใกล้ ๆ ได้อีกด้วย

รูปปั้นเงือกน้อย ‘ลิตเติ้ล เมอร์เมด’ (The statue of The Little Mermaid)

ถนนสตรอยเกต (Strøget Street)

สายซิตี้วอล์ค (City Walk) และสายกิน เตรียมวอร์มร่างกายได้เลย กับ ‘สตรอยเกต’ ถนนคนเดินยาวที่สุดในโลก (1.1 กิโลเมตรจากศาลาว่าการเมืองไปยังถนน Kongens Nytorv Strøget) และเป็นแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน ตั้งแต่ร้านอาหารระดับมิชลิน สตรีทฟู้ดสไตล์นอร์ดิกที่น่าอร่อย ร้านค้าที่มีสินค้าราคามิตรภาพและสินค้าแบรนด์เนมท

หอสังเกตการณ์ (The Round Tower)

หอสังเกตการณ์เก่าแก่ที่สุดในยุโรปที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ด้วยความสูง 36 เมตร ภายในมีบันไดวนเป็นระยะทาง 209 เมตรสำหรับให้เดินขึ้นไปชมทัศนียภาพเมืองจากมุมสูงได้ อีกทั้ง ภายในใช้เป็นหอดูดาว ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม และเป็นห้องสมุดซึ่งในอดีตเป็นสถานที่ที่ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน เคยมาใช้ห้องสมุดนี้เป็นสถานที่ในการสร้างแรงบันดาลใจและสร้างสรรค์ผลงานของเขาด้วย

หอสังเกตการณ์ (The Round Tower)

ท่าเรือนูฮาวน์ (Nyhavn)

ท่าเรือเก่าแก่ที่มีอาคารสีสันสดใสซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้เป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์สำหรับเรือจากทั่วโลก โดยปัจจุบันถูกปรับปรุงให้เป็นย่านคลาสสิกที่คึกคักและมีเสน่ห์อันโดดเด่นด้วยวิวของตึก เรือใบและเรือสินค้าโบราณ (ดูแลโดยพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเดนมาร์ก)

รวมถึงทัศนียภาพของอ่าวอันงดงามเหมาะกับการทำกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น เดินเล่น ทานอาหาร ถ่ายรูป และการปาร์ตี้สังสรร จึงมีทั้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ ผับ บาร์ และร้านขายของที่ระลึก ให้บริการและสามารถเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา

ท่าเรือนูฮาวน์ (Nyhavn)

ปราสาทโรเซนเบิร์ก (Rosenborg Castle)

ปราสาทสไตล์ ดัตช์ เรอเนสซองส์ (Dutch Renaissance) ที่สร้างเสร็จปี 1624 โดยพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 เพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์เดนมาร์ก โดยเราสามารถทัวร์ชมความงามสุดตระการตาในพื้นที่ปราสาทได้ทั้ง 2 ส่วน ได้แก่ ด้านใน (3 ชั้น)

ซึ่งไฮไลต์ คือ “ไนด์ส ฮอลล์” (The Knights’ Hall) ที่มีการจัดแสดง “บัลลังค์” ที่ใช้ในพิธีราชาภิเษกและชั้นใต้ดินที่ถูกจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงทรัพย์สินของราชวงศ์ อาทิ “มงกุฎกษัตริย์” ของจริง เป็นต้น ส่วนพื้นที่ด้านนอกถูกปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะ King’s Garden โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนจะมีดอกไม้หลากหลายสีสันบานต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทำให้เป็นอีกแลนด์มาร์คยอดฮิตในกรุงโคเปนเฮเกนที่สามารถจัดทัวร์มาได้ตลอดปี

ปราสาทโรเซนเบิร์ก (Rosenborg Castle)

พระราชวังอมาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace)

พระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์กแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้คำชื่นชมและการกล่าวถึงความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมรูปแบบร็อคโคโค (Rococo Architecture) และงานศิลป์ต่าง ๆ โดยพื้นที่จะประกอบด้วยอาคารทั้ง 4 หลังที่ตั้งอยู่โดยรอบจัตุรัสซึ่งตรงกลางจะเป็นรูปปั้นทรงม้าที่สวยงามที่สุดในโลกของพระเจ้าเฟดเดอริกที่ 5 (Frederick VI)

ทั้งนี้ พระราชวังอมาเลียนบอร์กเปิดให้ทัวร์ชมส่วนได้ 2 อาคารและพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับราชวงศ์ (The Amalienborg Palace Museum) แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ การเดินแถวเพื่อเปลี่ยนเวรทหาร (Royal Life Guard) ในเวลาเที่ยงตรงของทุกวัน โดยมีระยะทางตั้งแต่พระราชวังโรเซนเบิร์ก (Rosenborg Castle) ถึงพระราชวังอมาเลียนบอร์ก

มีค่าเข้าและเปิดให้บริการ 4 เดือนเท่านั้น ได้แก่ เดือนกันยายน-เดือนตุลาคมในทุกวัน เวลา 10.00 น. ถึง 16.00 น., ส่วนเดือนพฤศจิกายน-วันที่ 22 ธันวาคมจะเปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ตั้งแต่ 10.00 น. ถึง 15.00 น. และช่วงสุดท้าย คือ วันที่ 26-31 ธันวาคมจะเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 10.00 น. ถึง 15.00 น.)

พระราชวังคริสเตียนบอร์ก (Christiansborg Palace)

หนึ่งในพระราชวังที่วิจิตรงดงามและมโหฬารที่สุดในประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวยอดนิยมทื่จะแวะมาถ่ายรูปและชื่นชมงานสถาปัตยกรรมต่าง ๆ อยู่เสมอ ในปัจจุบันใช้เป็นที่ตั้งของหน่วยงานสำคัญทางราชการ อาทิ รัฐสภา ศาลฎีกาและห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี เป็นต้น

นอกจากนี้ หลายๆ ส่วนของพระราชวังยังใช้ในการจัดงานราชพิธีของราชวงศ์เดนมาร์ก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเสียค่าบริการและเข้าชมได้ 5 พื้นที่ ได้แก่ ห้องรับรองหลวง (The Royal Reception Rooms), ห้องเครื่องหลวง (The Royal Kitchen), ซากปรักหักพัง (The Ruins), คอกม้าหลวง (The Royal Stables) และโบสถ์ประจำพระราชวัง (The Palace Chapel)

โดยเปิดให้เยี่ยมชมได้ทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ โดยระหว่างเดือนเมษายน–กันยายนในเวลา 09.00 – 17.00 น. และช่วงเดือนตุลาคม–มีนาคมในเวลา 10.00 – 17.00 น.

โบสถ์หินอ่อนเฟรเดอริก (Frederik’s marble Church)

ท่านไหนที่ชอบเสพงานสถาปัตยกรรมและศิลปะต่าง ๆ ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง กับโบสถ์ทรงโดมสีเขียวงดงามที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวียถูกสร้างด้วยหินอ่อนอย่าง ‘โบสถ์เฟรเดอริก’ โดยรับแรงบันดาลใจจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St Peter’s Basilica) ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมในการแต่งงาน (พิธีจะมีในวันศุกร์และวันเสาร์) ที่สำคัญ เราสามารถขึ้นไปยังยอดโดมเพื่อชมวิวที่ความสวยงามในเวลา 13.00 น. เฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ส่วนในฤดูร้อนสามารถขึ้นชมได้ทุกวัน เวลา 13.00 น. เช่นกัน

น้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน (Gefion Fountain)

น้ำพุขนาดใหญ่มีสถาปัตยกรรมรูปปั้นที่งดงามเป็นสตรีกุมบังเหียนของวัวขนาดยักษ์ 4 ตัว โดยสร้างตามตำนานโบราณของนอร์ส (Norse Mythology) ของเทพีเกฟิออนกุมบังเหียนวัวจากการแปลงกายของบุตรชายทั้งสี่ โดยนักท่องเที่ยวนิยมไปโยนเหรียญเพื่อขอพรต่าง ๆ ให้ความปรารถนาเป็นจริง

สวนสนุกทิโวลี (Tivoli Gardens amusement park)

หนึ่งในสวนสนุกที่มีชื่อเสียงอันเก่าแก่กว่า 200ปี งดงาม และโดนใจนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยทั่วโลกอยากจะมาท่องเที่ยวมากที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสวนสนุกอย่าง ดิสนิย์เวิลด์ (Disney World) และที่อื่น ๆ โดยภายในนักท่องเที่ยวจะเต็มอิ่มกับเครื่องเล่นต่างๆ มากมาย อาทิ ม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ รวมถึงเครื่องเล่นชวนหวาดเสียวอย่างรถไฟเหาะตีลังกา รวมถึงอาคารบ้านเรือนสวย ๆ ทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน

นอกจากนี้ยังมีความบันเทิงอื่น ๆ เช่น การจัดแสดงดนตรี โรงละคร และคาเฟ่ พร้อมทั้งมีการบริการศูนย์รวมร้านอาหารชั้นเยี่ยมของเมืองโคเปนเฮเกนอีกแห่งหนึ่งด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับการท่องเที่ยวในเขตเมืองหลวงเดนมาร์ก เพียงภูมิภาคนี้ก็สามารถเที่ยวได้หลากหลายรูปแบบและใช้เวลาไม่นานนัก ทำให้วางแผนทัวร์ภูมิภาคอื่น ๆ ได้อีกด้วย ทั้งนี้ในเขตดังกล่าวยังมีสถานที่เที่ยวอีกมากมาย เช่น สระว่ายน้ำกลางแจ้งใกล้ท่าเรือ Islands Brygge หรือชมซากุระในสวน Bispebjerg Cemetery

อย่างไรก็ตาม พาร์ทที่สอง เราจะพาทุกคนเดินเข้าสู่โลกแห่งธรรมชาติมากขึ้นกับการท่องเที่ยว ‘เขตยูดแลนด์กลาง (Central Jutland) และเหนือ (North Jutland)’ สายแอดแวนเจอร์เตรียมตัวกันให้พร้อม! ท่านใดที่สนใจการท่องเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์ตามข้อมูลข้างต้นกับรักยิ้มทัวร์ สามารถเลือกจองแพ็กเกจทัวร์ต่าง ๆ ได้ทันที หรือต้องการจัดกรุ๊ปทัวร์แบบเอ็กคลูซีฟ สามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางด้านล่างได้เช่นกัน

👉ดูโปรแกรม ทัวร์เดนมาร์ก / เที่ยวเดนมาร์ก

ตามรอยในดินแดนแห่งความสุข : ประเทศ เดนมาร์ก


📍ติดต่อสอบถาม / จอง ได้ที่  
💚Official Line ID : @rakyimtour Click http://line.me/ti/p/%40rakyimtour
📱โทร. 0942492236 (คุณรักษ์)
📱โทร. 0909914787 (คุณเกด)
📱โทร. 0625672275 (คุณเบล)


ติดตามคลิปรีวิวที่เที่ยวทั่วไทยได้ที่
🎬 ช่อง Youtube #อาหมวยพาเที่ยว
🔔กดติดตาม และ กดกระดิ่ง แจ้งเตือน
💖เพื่อจะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆ ฝากด้วยนะคะ
www.youtube.com/user/rakyimtourbkk/


 ✈️ติดตาม รักยิ้มทัวร์ ได้ที่
🌎Website: https://www.rakyimtravel.com/ ,https://www.rakyimtour.com/
💻 Facebook: https://www.facebook.com/rakyimtour
📱 Line Official : @rakyimtour -> http://line.me/ti/p/%40rakyimtour
🛒Line My Shop : https://shop.line.me/@rakyimtour
🎬Youtube: https://www.youtube.com/user/rakyimtourbkk/
🎥TikTok : https://www.tiktok.com/@rakyimtour
🖼️ Instagram: https://www.instagram.com/rakyim_tour
📰 Twitter: https://www.twitter.com/rakyimtour1


จองผ่านไลน์

@rakyimtour