Frederik’s Church วิหารหินอ่อนแห่งโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก ท่ามกลางความทันสมัยของมหานครอย่างกรุงโคเปนเฮเกนที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสวย ๆ และสีสันของความบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งตอบโจทย์ทริปสไตล์ชม-ชิม-ช้อป-ชิลล์สุด ๆ แต่บางคนก็ชอบสถานที่เที่ยวแบบเงียบ ๆ เพื่อปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับเรื่องราวต่าง ๆ และเสพงานศิลป์ ซึ่งเราคิดว่า ‘โบสถ์’ น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ !
Frederik’s Church วิหารหินอ่อนแห่งโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก
รักยิ้มทัวร์ขอต้อนรับทุกคนสู่ ‘โบสถ์เฟรเดอริก (Frederik’s Church)’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โบสถ์หินอ่อน” (The Marble Church) โบสถ์แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนความความอลังการของสถาปัตยกรรมสีนวลอันสง่างามตัดกับท้องฟ้าสีครามซึ่งดึงดูดทุกสายตาให้เงยหน้ามองด้วยความชื่นชม ราวกับการเดินทางย้อนไปสู่อดีตในศตวรรษที่ 18 กับศิลปะสไตล์หลุยส์ ! โดยเราจะพาทุกคนไปทัวร์รอบ ๆ โบสถ์เพื่อเป็นข้อมูลประกอบตัดสินใจเลือกแพ็กเกจทัวร์เดนมาร์กให้เหมาะกับสไตล์ตนเองที่สุด
ความเป็นมา โบสถ์เฟรเดอริก (Frederik’s Church)
จุดเริ่มต้นของความงดงาม เกิดขึ้นจากแนวพระราชดำริในพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 5 (Frederik V) ทรงมีพระราชประสงค์ให้สร้างโบสถ์นิกายลูเธอร์แรน (Lutherianism) ณ บริเวณจุดศูนย์กลางของย่าน Frederiksstaden ตามแผนการพัฒนาเมืองและเพื่อเป็นเกียรติในวโรกาสครบรอบ 300 ปี แห่งการครองราชสมบัติราชวงศ์ออลเดนบูรก์ (House of Oldenburg) โดยเป็นโบสถ์สูงประมาณ 46 เมตรที่ถูกออกแบบในสไตล์ร็อคโคโค (Rococo) จากหินอ่อนพร้อมด้วยโดมสีเขียวขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 31 เมตร ซึ่งใช้เวลาปรับแบบและสร้างเสร็จเป็นเวลา 145 ปี (ค.ศ.1749-1894)
ในปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้ยังคงทำหน้าที่เป็นโบสถ์ประจำท้องถิ่นรวมถึงเป็นสถานที่จัดกิจกรรมมากมาย เช่น เทศกาลสำคัญ หรือ คอนเสิร์ตต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ ‘โบสถ์เฟรเดอริก’ เปิดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมได้ทุกวัน (วันจันทร์ – วันเสาร์ : 10.00 – 17.00 น. / วันอาทิตย์ : 12.30 – 17.00 น.) และไม่มีค่าใช้จ่าย (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.marmorkirken.dk/)
โดยแต่ละฤดูกาลนั้นบรรยากาศโดยรอบโบสถ์จะเปลี่ยนไป ทำให้เกิดฉากทิวทัศน์ที่มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ไม่ซ้ำกันซักช่วงเวลา โดยมีไฮไลท์ ดังนี้
- 🌿ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) : อากาศเริ่มอุ่นขึ้น ทำให้ต้นไม้และดอกไม้ที่อยู่ภายในสวนภายในโบสถ์เริ่มบาน
- ☀️ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) : อากาศอบอุ่น มีต้นไม้สีเขียวขจีและดอกไม้หลากสีสันรอบ ๆ โบสถ์รวมถึงแสงแดดอันอบอุ่นและท้องฟ้าสีคราม ทำให้วิวด้านบนโดมมีความสวยงามและสดใส
- 🍂ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) : อากาศเริ่มเย็นลงจึงทำให้ใบไม้ของต้นไม้เกิดการเปลี่ยนสี่
- ❄️ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) : อากาศหนาวเย็นและถูกปกคลุมด้วยหิมะ สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงามอย่างมาก
สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจ
- โซนภายนอกโบสถ์ : เราสามารถเดินชมความงามได้โดยรอบ ทั้ง สถาปัตยกรรมของอาคาร, เสา 12 ต้นที่รองรับโดม, สวนเล็ก ๆ และรูปปั้นบุคคลสำคัญของคริสตจักรเดนมาร์กมากมาย อาทิ ‘Søren Kierkegaard’ นักปรัชญาและนักเขียน, ‘Ansgar’ มิชชั่นนารีอันโด่งดัง รวมถึงนักแด่งเพลงบทสวดอย่าง ‘Kingo’, ‘Brorson’ และ ‘Grundtvig’ อีกทั้ง รูปปั้นบนระเบียงหลังคาก็เป็นบุคคลสำคัญจากประวัติศาสตร์เช่นกัน อาทิ โมเสส (Moses) และ มาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther)
- โซนภายในโบสถ์ มีรายละเอียด ดังนี้
- ห้องโถงทรงกลมขนาดใหญ่ สูงตระหง่าน โดยเน้นการออกแบบภายในอย่างเรียบหรูและตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นด้วยความประณีตสุด ๆ ซึ่งสามารถรองรับผู้คนได้ประมาณ 800 ราย
- ด้านบนเป็นเพดานทรงโดมที่มีภาพจิตรกรรมบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา ‘อัครสาวกทั้ง 12 ของพระเยซู’ พร้อมกับหน้าต่างเล็ก ๆ 12 บาน ต่อมาคือ พื้นที่พิธีกรรม ประกอบด้วย ไม้กางเขนสูงประมาณ 3 เมตร และแท่นบูชาที่ตกแต่งลวดลายปูนปั้นและประดับประดาด้วยหินอ่อนหลากสีสัน ซึ่งล้อมรอบด้วยราวบันไดหินอ่อนและเชิงเทียนสีทอง อีกทั้ง ทางด้านขวาของแท่นบูชาเป็นอ่างบัพติศมา (อ่างล้างบาปที่ใช้ในศีลศักดิ์สิทธิ์) ที่ทำมาจากหินอ่อนสีขาวเทาของสวิตเซอร์แลนด์
- ไปป์ออร์แดนตัวแรกถูกติดตั้งในปี 1894 แต่เนื่องจากความทรุดโทรม จึงมีการนำออร์แกนตัวใหม่มาทดแทนในปี 1963 และประติมากรรมอีก 1 ชิ้น ได้แก่ ภาพแกะสลักไม้โอ๊คแบบนูนต่ำที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 เป็นภาพเหตุการณ์พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า
- การเยี่ยมชมโดม (เก็บค่าบริการ) : หนึ่งในประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดคือการขึ้นไปชมวิวของกรุงโคเปนเฮเกนในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจากยอดโดมของโบสถ์ผ่านบันไดเวียนแคบ ๆ ซึ่งเราสามารถขึ้นไปชมวิวบนยอดโดมได้ทุกวันในช่วงฤดูร้อนและในช่วงฤดูหนาวเฉพาะวันสุดสัปดาห์ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ถึง 15.00 น. (โปรดตรวจสอบวันและเวลาในการรับชมได้ที่เว็บไซต์ www.marmorkirken.dk)
อย่างไรก็ตาม ยังมีสถานที่ประกอบพิธีกรรมของศาสนาที่สร้างจากหินอ่อนซึ่งรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกหลายแห่งทั่วโลกเลย เช่น ‘มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์’ ความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนสซองส์ของนครรัฐวาติกัน, ‘มหาวิหารเซนต์มาร์ก’ ในอิตาลีซึ่งเป็นที่รู้จักจากการตกแต่งภายในที่หรูหราด้วยกระเบื้องโมเสคสีทองและหินอ่อนหลากสี, ‘มหาวิหารซาลซ์บูร์ก’ สไตล์บาโรกของออสเตรีย, ‘มหาวิหารเซนต์แพทริก’ สไตล์นีโอโกธิคของสหรัฐอเมริกา, ‘มัสยิดหลวงเชคซาเยด’ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งมีโดมโมเสคหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก, ‘วัดลักษมีนารายัน’และ ‘ทัชมาฮาล’ ของอินเดียที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวทั้งหมด เป็นต้น
สเตย์จูนกับรักยิ้มทัวร์ไว้แล้วจะไม่พลาดเรื่องราวการท่องเที่ยวอันน่าอัศจรรย์ใจอย่างแน่นอน ! ท่านใดที่ต้องการสัมผัสความยิ่งใหญ่ของ ‘โบสถ์เฟรเดอริก (Frederik’s Church)’ หรือท่องเที่ยวใน ‘เดนมาร์ก’ กับรักยิ้มทัวร์ สามารถเลือกจองแพ็กเกจทัวร์ต่าง ๆ ได้ทันที หรือต้องการจัดกรุ๊ปทัวร์แบบเอ็กคลูซีฟ สามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางด้านล่างได้เช่นกัน
👉ดูโปรแกรม ทัวร์เดนมาร์ก / เที่ยวเดนมาร์ก
📍ติดต่อสอบถาม / จอง ได้ที่
💚Official Line ID : @rakyimtour Click http://line.me/ti/p/%40rakyimtour
📱โทร. 0942492236 (คุณรักษ์)
📱โทร. 0909914787 (คุณเกด)
📱โทร. 0625672275 (คุณเบล)
ติดตามคลิปรีวิวที่เที่ยวทั่วไทยได้ที่
🎬 ช่อง Youtube #อาหมวยพาเที่ยว
🔔กดติดตาม และ กดกระดิ่ง แจ้งเตือน
💖เพื่อจะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆ ฝากด้วยนะคะ
www.youtube.com/user/rakyimtourbkk/
✈️ติดตาม รักยิ้มทัวร์ ได้ที่
🌎Website: https://www.rakyimtravel.com/ ,https://www.rakyimtour.com/
💻 Facebook: https://www.facebook.com/rakyimtour
📱 Line Official : @rakyimtour -> http://line.me/ti/p/%40rakyimtour
🛒Line My Shop : https://shop.line.me/@rakyimtour
🎬Youtube: https://www.youtube.com/user/rakyimtourbkk/
🎥TikTok : https://www.tiktok.com/@rakyimtour
🖼️ Instagram: https://www.instagram.com/rakyim_tour
📰 Twitter: https://www.twitter.com/rakyimtour1