ใบอนุญาตนำเที่ยวเลขที่ : 11/06333

เวลาทำการ

จันทร์ - ศุกร์ 08.30 - 17.30 น.

หมู่บ้านโอ (Å VILLAGE) หอสมุดของหมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์ 📕🏘️

หมู่บ้านโอ (Å VILLAGE) หอสมุดของหมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์ 📕🏘️

หมู่บ้านโอ (Å VILLAGE) หอสมุดของหมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์ เมื่อพูดถึง หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten Islands) เราจะนึกถึงภาพของภูเขาหินสูงสลับซับซ้อน ฟยอร์ด (Fjord) ที่เห็นน้ำใสเหมือนกระจก ปรากฏการณ์สุดมหัศจรรย์ต่าง ๆ และบ้านเรือนสีสันสดใสสไตล์นอร์ดิกเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายซึ่งสวยจับใจและตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย

โดยการเริ่มต้นเรียนรู้และซึมซับวิถีแห่งชาวโลโฟนนั้นจะมีหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ทางตอนใต้สุดซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายยาว ‘E10’ (ชื่อ King Olav V route ผ่าน ประเทศสวีเดน, นอร์เวย์ และหมู่เกาะโลโฟเทน) ที่บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ รวมถึงยังคงรักษามรดกทางวัฒนธรรมและอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ได้อย่างงดงาม !

หมู่บ้านโอ (Å VILLAGE) หอสมุดของหมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์

หมู่บ้านโอ (Å VILLAGE) หอสมุดของหมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์

รักยิ้มทัวร์ขอต้อนรับสู่ ‘หมู่บ้านโอ (Å Village) หอสมุดแห่งหมู่เกาะโลโฟเทน’ สถานที่ที่บันทึกประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ของหมู่เกาะโลโฟเทนได้อย่างละเอียดตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน โดยเราจะพาไปเช็คอินตามแลนด์มาร์กสำคัญต่าง ๆ เหมือนการย้อนอดีตไปยังยุคยุโรปสมัยใหม่ (Modern Europe ปี 1800 – 1900) ถ้าทุกคนพร้อมกันแล้ว ก็ใส่เสื้ออุ่นๆ สวมรองเท้าสบาย ๆ ชาร์จมือถือให้เต็ม สะพายกล้องคู่ใจ และจูงมือกันออกเดินทางได้ !

ความเป็นมา หมู่บ้านโอ (Å VILLAGE)

‘โอ (Å หรือ Å i Lofoten)’ หมู่บ้านเล็ก ๆ สุดแดนใต้ของหมู่เกาะโลโฟเทนซึ่งตั้งอยู่บริเวณแหลมที่ทอดยาวตามแนวชายฝั่งเวสฟยอร์ด (Vestfjorden) รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันตื่นตาตื่นใจ โดยชื่อของหมู่บ้านนั้นมีความหมายในภาษานอร์สโบราณว่า ‘ลำธารสายเล็ก’ ตามภูมิประเทศที่มีแม่น้ำ Åelva (ฉายาแม่น้ำลับแห่งนอร์เวย์) ผ่านกลางหมู่บ้านและมีลำธารอีกหลายสายจากทะเลสาบ Agvatnet ไหลผ่านสู่ทะเล

อีกทั้ง หมู่บ้านนี้ถือเป็นหนึ่งในหมู่บ้านเก่าแก่ (ประมาณปี 1800) ที่ยึดอาชีพชาวประมงเป็นหลักตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากความเจริญของหมู่บ้านทำให้เกิดกิจการต่าง ๆ ขึ้นมากมาย เช่น ร้านเบเกอรี่ที่ยังคงอยู่ (ปี 1844), โรงงานปลาที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป (ปี 1850) และ ไปรษณีย์แห่งเดียวของหมู่เกาะ (ปี 1876) เป็นต้น ทั้งนี้ หมู่บ้านแห่งนี้มีความสำคัญในด้านการอนุรักษ์วิถีชีวิตและรักษาของโบราณต่าง ๆ ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ อาทิ เครื่องมือจับปลา, อุปกรณ์แปรรูปปลา, เรือบ้านโบราณ, ร้านขายของชำ (ปี 1843 ที่ยังเปิดบริการถึงปัจจุบัน) และ ‘โรบูเอ้ (Rorbuer – กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมง) แบบดั้งเดิม’

โดยแต่ละฤดูกาลจะมีไฮไลท์ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถจัดทัวร์มาทำกิจกรรมกันได้หลากหลายสไตล์เลย

❄️ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-มีนาคม) : ปรากฏการณ์กลางวันที่มืดมิด (Polar Night) และแสงเหนือ (Northern Light)
🌿ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) : โครงไม้ที่เต็มไปด้วยปลาตากแห้งและพรรณไม้สีสันต่าง ๆ
☀️ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) : ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun)
🍂ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) : ใบไม้เปลี่ยนสีและการมาของแสงเหนืออย่างเป็นทางการ

สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจ

‘โรบูเอ้ หรือ กระท่อมหลากสี’

โดยสีของแต่ละหลังนั้นเป็นการแสดงฐานะของผู้เป็นเจ้าของเนื่องจากราคาที่ไม่เท่ากัน ได้แก่ สีแดงมีราคาถูกที่สุด ต่อมาคือสีเหลืองที่ราคาปานกลาง และสีขาวจะแพงที่สุด อีกทั้งยังมีสไตล์ ขนาดและประโยชน์ใช้สอยที่ไม่เหมือนกัน โดยปัจจุบันได้มีการปรับปรุง ‘โรบูเอ้’ บางหลังให้เป็นที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าถึงบรรยากาศของหมู่บ้านและชมความงามทางธรรมชาติต่าง ๆ (แนะนำให้เดินชมโรบูเอ้ที่กระจายอยู่รอบ ๆ หมู่บ้านเนื่องจากแต่ละหลังมีการออกแบบที่แทบจะไม่ซ้ำกันเลย!)

‘โรงเก็บของสีขาว’

อีกหนึ่งในไอคอนที่ต้องแวะมาถ่ายรูปและเช็คอินเพื่อเป็นการบอกว่า เราได้มาถึงหมู่บ้านโอแล้ว! ซึ่งฉากหลังจะเป็นทะเลนอร์วีเจียนที่มีเสน่ห์แตกต่างกันไปแต่ละฤดู โดยโลเคชั่นของโรงเก็บของสีขาวนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่พัก Å Feskarbrygga Rorbuer

‘Hjell หรือ โครงไม้สำหรับตากปลา’

โครงไม้ที่ใช้สำหรับตากปลาค็อดและปลาประเภทอื่น ๆ นับเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมในการถนอมอาหารแบบดั้งเดิมจากอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยโครงไม้จะมีรูปทรงหลากหลายเพื่อให้เหมาะกับการตากปลาแตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ของหมู่บ้าน หากต้องการเห็นโครงไม้ที่เต็มไปด้วยปลา สามารถจัดทัวร์มาชมได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม อย่างช้าที่สุดคือ เดือนมิถุนายน เนื่องจากกระบวนการตากแห้งขึ้นกับสภาพอากาศ (แนะนำให้สอบถามข้อมูลผ่านหน้าเว๊ปไซต์ของหมู่เกาะ www.visitlofoten.com)

‘ศูนย์กลางหมู่บ้าน’

จุดถ่ายรูปมหาชนและแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว! โดยการเริ่มต้นของนักท่องเที่ยวมักจะเริ่มจากจุดนี้ อาทิ

  • Norwegian Fishing Village Museum (Norsk Fiskeværsmuseum) เป็นพิพิธภัณฑ์แบบ open air ที่รวบรวมเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงของหมู่เกาะโลโฟเทนกว่า 250 ปี (1840 – 1960) ประกอบไปด้วยอาคารหลายแห่งให้เราได้ศึกษา ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ทำเบเกอรี่, เรือบ้าน, อุปกรณ์จับปลาตั้งแต่สมัยโบราณ, โรงงานผลิตน้ำมันตับปลาค็อด (The Cod Liver Oil Factory), ร้านชำ และสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น โรงตีเหล็ก, ที่ทำการไปรษณีย์ และท่าเรือสำหรับทำการค้า เป็นต้น โดยเวลาทำจะแบ่งเป็นเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมจะเปิด ‘จันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-15.00 น.’, เดือนมิถุนายนถึงกันยายนจะเปิด ‘ทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น.’ และเดือนตุลาคมถึงธันวาคมจะเปิด ‘จันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-15.00 น.’ (ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง จึงแนะนำให้สอบถามผ่านหน้าเว๊ปไซต์ www.museumnord.no/vare-museer/norsk-fiskevaersmuseum หรือ www.facebook.com/norskfiskevaersmuseum )
  • ร้านอาหาร Brygga : ร้านอาหารยอดนิยมที่นำโกดังเก็บปลาเก่าแก่มาปรับปรุงพร้อมทั้งเสิร์ฟอาหารทะเลท้องถิ่นรสเลิศ โดยเปิด ‘ทุกวัน เวลา 8.00-23.00 น.’ (ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง จึงแนะนำให้สอบถามผ่านหน้าเว๊ปไซต์ www.arorbuer.no/en/restaurant หรือ www.instagram.com/aarorbuer_lofoten)
  • สามแยกของหมู่บ้าน : อีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาถ่ายรูปอัพลงโซเชียล
  • ท่าเรือหมู่บ้านโอ : เป็นท่าเรือที่เป็นลักษณะทางเดินเข้าไปในทะเล เมื่อเรามองกลับมายังหมู่บ้าน จะทำให้เห็นวิวครบทุกองค์ประกอบ ทั้งตัวหมู่บ้าน ที่จอดเรือ ทะเลสีเขียวฟ้า และภูเขาของเวสฟยอร์ด
‘พระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun)’

ซึ่งหมู่บ้านโอได้ถูกเรคคอมเมนให้เป็นหนึ่งในสถานที่ดูปรากฏการณ์ ‘ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง’ ได้สวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน โดยแต่ละโซนของหมู่บ้านจะให้ฟิลแตกต่างกันออกไป

ก็จบกันไปแล้วกับ ‘โอ (Å) หมู่บ้านที่อยู่สุดขอบแดนใต้ของหมู่เกาะโลโฟเทน ซึ่งเหมือนเราได้เข้าถึงวิถีชีวิตของมนุษย์กับธรรมชาติผ่านการเล่าขานความรุ่งเรืองในอดีต สมัยที่หมู่บ้านยังคับคั่งไปด้วยเรือประมง อวนที่เต็มไปด้วยปลา และภาพบ้านเรือนหลากสีที่เรียงรายริมท่าเรือ สู่ภาพสะท้อนในปัจจุบันซึ่งหมู่บ้านได้ปรับตัวตามกระแสโลกาภิวัตน์ แต่ยังอนุรักษ์วัฒนธรรมที่เรียบง่าย พึ่งพิงธรรมชาติ และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์งดงามได้อย่างสมบูรณ์แบบ! นับว่าเป็นอีกหนึ่งดรีมเดสติเนชั่นส์สำหรับผู้ที่ต้องการทัวร์ทุกรูปแบบและสามารถวางแผนเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

สุดท้ายนี้ สเตย์จูนกับรักยิ้มทัวร์ไว้แล้วจะไม่พลาดเรื่องราวการท่องเที่ยวอันน่าอัจรรย์ใจอย่างแน่นอน! ท่านใดที่ต้องการสัมผัสความสวยของ ‘หมู่บ้านโอ (Å Village)’ หรือท่องเที่ยวในหมู่เกาะโลโฟเทนกับรักยิ้มทัวร์ สามารถเลือกจองแพ็กเกจทัวร์ต่าง ๆ ได้ทันที หรือต้องการจัดกรุ๊ปทัวร์แบบเอ็กคลูซีฟ สามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางด้านล่างได้เช่นกัน

👉ดูโปรแกรม ทัวร์นอร์เวย์ / เที่ยวนอร์เวย์


📍ติดต่อสอบถาม / จอง ได้ที่  
💚Official Line ID : @rakyimtour Click http://line.me/ti/p/%40rakyimtour
📱โทร. 0942492236 (คุณรักษ์)
📱โทร. 0909914787 (คุณเกด)
📱โทร. 0625672275 (คุณเบล)


ติดตามคลิปรีวิวที่เที่ยวทั่วไทยได้ที่
🎬 ช่อง Youtube #อาหมวยพาเที่ยว
🔔กดติดตาม และ กดกระดิ่ง แจ้งเตือน
💖เพื่อจะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆ ฝากด้วยนะคะ
www.youtube.com/user/rakyimtourbkk/


 ✈️ติดตาม รักยิ้มทัวร์ ได้ที่
🌎Website: https://www.rakyimtravel.com/ ,https://www.rakyimtour.com/
💻 Facebook: https://www.facebook.com/rakyimtour
📱 Line Official : @rakyimtour -> http://line.me/ti/p/%40rakyimtour
🛒Line My Shop : https://shop.line.me/@rakyimtour
🎬Youtube: https://www.youtube.com/user/rakyimtourbkk/
🎥TikTok : https://www.tiktok.com/@rakyimtour
🖼️ Instagram: https://www.instagram.com/rakyim_tour
📰 Twitter: https://www.twitter.com/rakyimtour1


จองผ่านไลน์

@rakyimtour