น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) สายน้ำแห่งขุนเขาของไอซ์แลนด์ คุณเคยสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของสายน้ำตกอันตระการตาบ้างไหม? เราเชื่อว่า นั้นต้องเป็นความทรงจำที่ตื่นเต้นและงดงามเกินจินตนาการอย่างแน่นอน ! ในครั้งนี้รักยิ้มทัวร์จะพาทุกคนไปเยือนดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง ‘ไอซ์แลนด์’ ซึ่งไม่ได้มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติเพียง พระอาทิตย์เที่ยงคืน แสงเหนือ ภูเขาไฟ ธารน้ำแข็ง ทุ่งลาวามอส หรือน้ำพุร้อนกีเซอร์ (Geyser)
แต่ยังมีทีเด็ดอย่าง ‘น้ำตกขนาดมหึมาอีกกว่า 10,000 แห่ง’ ทั่วทั่งประเทศ ! หนึ่งในนั้นคือ ‘น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss waterfall)’ ที่มีความพิเศษตรงที่น้ำจะตกมาจากหน้าผาที่มีลักษณะเป็นหุบเขา ละอองน้ำสีขาวเมื่อกระทบกับแดดจะทำให้เกิด ‘รุ้งกินน้ำ’ ตัดกับพื้นที่เป็นหินลาวาสีดำ เปรียบเสมือน ‘การย่างก้าวเข้าสู่นครลี้ลับ’
น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss) สายน้ำแห่งขุนเขาของไอซ์แลนด์
ทั้งนี้ รักยิ้มทัวร์ขอนำทุกคนไปสำรวจรอบ ๆ ‘น้ำตกสโกกาฟอสส์’ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบตัดสินใจเลือกแพ็กเกจทัวร์ไอซ์แลนด์ให้เหมาะกับสไตล์ตนเองที่สุด ถ้าพร้อมกันแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางได้ !
ความเป็นมา น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss waterfall)
น้ำตกแห่งนี้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงระดับแลนด์มาร์กยอดนิยมที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังเขตภาคใต้ โดยตั้งอยู่ริมถนนหมายเลข 1 ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านสโคการ์ (Skógar Village) ทั้งนี้ ‘น้ำตกสโกกาฟอสส์’ คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นประมาณ 12,000-18,000 ปีก่อนอันเป็นช่วงที่ธารน้ำแข็งเริ่มละลายอย่างรวดเร็วและเกิดการกัดเซาะอย่างต่อเนื่องเป็นหน้าผาหนึ่งของที่ราบสูงไอซ์แลนด์ซึ่งปัจจุบันมีความกว้างประมาณ 25 เมตร และสูงราว ๆ 60 เมตร ส่วนมวลน้ำสีขาวของน้ำตกนั้นมาจากลำน้ำสาขาของแม่น้ำสโกก้า (Skógá River) ที่ไหลผ่านหน้าผากลายเป็นละอองน้ำและม่านน้ำตกลงสู่แอ่งน้ำด้านล่างและธารน้ำ รวมถึง อาจมีการปรากฏตัวของ ‘รุ้งกินน้ำ’ หลากหลายขนาดในวันที่แดดออกจัด ๆ อีกด้วย !
จากเอกลักษณ์และความงามของแลนด์สเคปที่ไม่เหมือนใครนั้น ทำให้โลเคชั่นดังกล่าวถูกใช้เป็นซีนสำคัญ ๆ ในภาพยนตร์และซีรี่ส์ดัง ๆ เช่น Thor: The Dark World (2013), The Secret Life of Walter Mitty (2013) และ Game Of Thrones Season 8 เป็นต้น ทั้งนี้ ‘น้ำตกสโกกาฟอสส์’ เปิดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่มีค่าใช้จ่าย (บริเวณที่จอดรถจะมีการเก็บค่าบริการและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.south.is/en/place/skogafoss-waterfall)
โดยแต่ละฤดูกาลจะมีไฮไลท์ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถจัดทัวร์มาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี ได้แก่
- ☀️ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเยอะที่สุด เนื่องจากอากาศอุ่นและกลางวันจะมีเวลานานเป็นพิเศษ นอกจากนี้ตัวน้ำตกและธรรมชาติรอบ ๆ จะเต็มไปด้วยสีสันสวยงามของพรรณไม้ต่าง ๆ รวมถึงมีโอกาสได้เห็น ‘สายรุ้ง’ บริเวณรอบ ๆ น้ำตกอีกด้วย
- 🍂ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) มีอากาศเย็นลงเล็กน้อย แต่ทัศนียภาพของใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งเราได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงาม
- ❄️ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) บางส่วนของน้ำตกอาจจะกลายเป็นน้ำแข็งและมีโอกาสที่ดีในการชมแสงเหนือ (Northern Lights)
- 🌿ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) เป็นฤดูที่มีปริมาณน้ำมากเป็นพิเศษและอากาศจะอุ่นขึ้น พร้อมทั้งต้นไม้มีการผลิใบและดอกไม้เริ่มบาน
สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจ (ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)
เส้นทางเดินชมน้ำตก
นักท่องเที่ยวจะพบกับทางเดินและจุดชมวิวหลายจุดที่สวยงามแตกต่างกัน โดยมีประมาณ 3 เส้นทางหลัก ๆ ดังนี้
- รอบฐานน้ำตก (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) : เส้นทางชมตัวน้ำตก หุบเขา และลำน้ำมีทางเดินสะดวกสบาย จุดชมวิวสวย ๆ มุมถ่ายรูปเท่ห์ ๆ รวมถึงพื้นที่พักผ่อนชิล ๆ ให้นักท่องเที่ยวเลือกทำกิจกรรมได้อย่างเพลิดเพลิน
- บรรยากาศโดยรอบซึ่งสามารถมองเห็น ‘น้ำตกสโกกาฟอสส์’ ได้เกือบทุกโซน
- ด้านหน้าของน้ำตก : มุมถ่ายรูปมหาชนที่ทุกคนจะได้เห็นความงามในมุมกว้างของน้ำตกและหน้าผาเหมือนเรากำลังจะก้าวผ่านประตูใหญ่ของเมืองที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา
- ด้านในของน้ำตก : โซนที่ทุกคนจะได้สัมผัสความงามของน้ำตกและใกล้ชิดแบบ 100% ทั้ง ตัวน้ำตกสุดอลังการสุด ความยิ่งใหญ่ของหน้าผา และม่านน้ำสีขาวที่เต็มไปด้วยละอองน้ำที่ฟุ้งกระจายจะทำให้รู้สึกสดชื่น พร้อมทั้งความสวยของ ‘รุ้งกินน้ำ’ และหากเราโชคดีจะได้เห็นปรากฏการณ์ ‘รุ้งคู่ (Double Rainbow คือ การเกิดรุ้ง 2 ตัวแต่มีการเรียงสีต่างกัน)’ ซึ่งหาชมได้ยาก
- ทางเดินด้านข้างธารน้ำที่ไหลไปสู่มหาสมุทรแอตแลนติกก็เป็นอีกจุดที่สามารถนั่งพักผ่อนเพลิน ๆ และถ่ายรูปชิล ๆ ได้
- จุดชมวิวด้านบนของน้ำตก (ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที) : เส้นทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้พิชิตยอดเขาตัวจริงกับทางขึ้นที่มีบันไดกว่า 400 ขั้นที่ทอดตัวยาวขึ้นไปด้านบนของน้ำตก โดยเราสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของ ‘น้ำตกสโกกาฟอสส์’ แบบพาโนรามา ไม่ว่าจะเป็น ลำน้ำสาขาของแม่น้ำสโกก้า ที่ราบสูงที่กว้างสุดลูกหูลูกตา รวมถึงเห็นมหาสมุทรแอตแลนติกและธารน้ำแข็งเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjafjallajökull Glacier) ที่ตั้งตระหง่านอยู่ไกล ๆ
- เส้นทางเดินป่า ได้แบ่งออกเป็น 2 ทางหลัก ๆ ได้แก่ ระยะทางสั้นและยาวซึ่งจุดสตาร์ท คือ จุดชมวิวด้านบนของ ‘น้ำตกสโกกาฟอสส์’ (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.south.is/en/place/skogafoss-waterfall)
- ระยะทางสั้น (4 – 6 ชั่วโมง) : เส้นทางเดินป่าแบบชิล ๆ ที่มีความยาวประมาณ 16 กิโลเมตร โดยระหว่างทางนั้นเราจะได้พบกับธรรมชาติของพันธุ์ไม้หลากชนิดตามริมลำน้ำสาขาของแม่น้ำสโกก้าและเนินเขาน้อยใหญ่ของที่ราบสูงไอซ์แลนด์
- ระยะทางยาว (1 – 2 วัน) : หนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่โด่งดังและได้รับความนิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์อย่าง ‘Fimmvörðuháls Trail’ ที่มีความยาวประมาณ 26 กิโลเมตร เหมาะกับสายแอดเวนเจอร์มือโปร เนื่องจากทางเดินที่ค่อนข้างลำบากและระยะทางที่ไกลซึ่งจำเป็นต้องค้างแรม แต่แลกมากับทัศนียภาพอันมหัศจรรย์และภูมิประเทศที่หลากหลาย เช่น น้ำตกน้อยใหญ่ สันเขาสลับซับซ้อน ทุ่งหญ้ากว้างไกล ที่ราบสูงภูเขาไฟ และธารน้ำแข็งอันงดงาม
- พื้นที่ตั้งแคมป์ (Skógar Campsite มีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ) ซึ่งเราสามารถกางเต็นท์หรือรถแคมป์ปิ้งพร้อมทั้งมีที่อาบน้ำและห้องน้ำให้ด้วย
- Skogafoss Bistro & Bar
ร้านอาหารและคาเฟ่ที่อยู่ติดกับ ‘น้ำตกสโกกาฟอสส์’ ซึ่งพร้อมให้บริการอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็น รวมถึงอาหารมื้อเบาตลอดทั้งวันอีกด้วย โดยมีไฮไลท์ คือ การได้นั่งรับประทานอาหารหรือจิบกาแฟชิล ๆ พร้อมกับการมองวิวหลักล้านของ ‘น้ำตกสโกกาฟอสส์’ ไปด้วย ! ซึ่งอาหารคาว หวานและเครื่องดื่มทุกเมนูถูกรังสรรค์อย่างพิถีพิถันจากการผสมผสานวัฒนธรรมการกินของชาวไอซ์แลนด์แบบดั้งเดิมและสไตล์เมนูนานาชาติอื่น ๆ ทั้งนี้ ‘Skogafoss Bistro & Bar’ เปิดบริการทุกวัน เวลา 7.00 – 21.00 น. (เวลาจะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล) และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.hotelskogafoss.is/restaurant
- พิพิธภัณฑ์สโคการ์ (Skógar Museum – เปิดบริการทุกวัน เวลา 9:00 – 18:00 น. และมีค่าบริการในการเข้าชม) แหล่งรวบรวมมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวไอซ์แลนด์ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 1949 โดยจัดแสดงงานฝีมือพื้นบ้านกว่า 18,000 ชิ้นในพิพิธภัณฑ์ 3 แห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน พิพิธภัณฑ์การขนส่ง และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ส่วนอาคารประวัติศาสตร์มีจำนวน 6 หลัง ได้แก่ โบสถ์สโคการ์, ตึกเรียน, โรงไฟฟ้าพลังน้ำ, บ้านไม้โบราณ (House from Holt) รวมถึงบ้านสไตล์โรงนาขนาดใหญ่ (farmhouse and storehouse) และขนาดเล็กหลาย ๆ หลังที่เชื่อมต่อกัน (Turf farmhouse) ทั้งนี้ ‘พิพิธภัณฑ์โคการ์’ เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00 – 18.00 น. และมีค่าบริการในการเข้าชม (สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว๊ปไซค์ www.skogasafn.is)
- Freya café
เป็นคาเฟ่ที่เกิดมาเพื่อสาย IG โดยแท้จริง ! ซึ่งตั้งอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์สโคการ์ โดยคาเฟ่ได้ถูกออกแบบการตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ให้มีสีสันสดใส จากคอนเซ็ปต์ ‘สวนกุหลาบสีชมพู’ นอกจากนี้ เมนูซิเนเจอร์ต่าง ๆ เป็นถูกรังสรรค์ให้มีความอร่อยแบบโฮมเมดทั้งหมด ! ทั้งนี้ ‘Freya café’ เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00 – 18.00 น. (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.skogasafn.is และ www.instagram.com/freyacafeiceland)
สุดท้ายนี้ ทัวร์ไอซ์แลนด์นั้นจะไม่เต็มอิ่มเลย หากไม่ได้มาเยือน ‘น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss waterfall)’ เพราะว่า น้ำตกแห่งนี้ไม่ได้เป็นแค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่มันยังเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจและการได้สัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสรรสร้างไว้ให้มนุษย์ได้ดื่มด่ำและสร้างแรงบันดาลใจในการค้นหาการผจญภัยครั้งใหม่ต่อไป !
สเตย์จูนกับรักยิ้มทัวร์ไว้แล้วจะไม่พลาดเรื่องราวการท่องเที่ยวอันน่าอัศจรรย์ใจอย่างแน่นอน ! ท่านใดที่ต้องการสัมผัสความสวยของ ‘น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skógafoss waterfall)’ หรือท่องเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์กับรักยิ้มทัวร์ สามารถเลือกจองแพ็กเกจทัวร์ต่าง ๆ ได้ทันที หรือต้องการจัดกรุ๊ปทัวร์แบบเอ็กคลูซีฟ สามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางด้านล่างได้เช่นกัน
👉ดูโปรแกรม ทัวร์ไอซ์แลนด์ / เที่ยวไอซ์แลนด์
“ไอซ์แลนด์ : ดินแดนแห่งภูเขาไฟ ธารน้ำแข็ง และแสงเหนือ”
- เรคยาวิก ไอซ์แลนด์ นครหลวงแห่งแสงเหนือ Part 1 🌌⭐
- น้ำแข็งแดนใต้ (Land of Ice) แห่งไอซ์แลนด์ Part 2 🧊❄️
- ภูมิภาคอันเป็นนิรันดร์ ไอซ์แลนด์ ตะวันออก Part 3 ☀️✨
- มหัศจรรย์ ไอซ์แลนด์ ฝั่งตะวันตก Part 4 🏔️🌄
📍ติดต่อสอบถาม / จอง ได้ที่
💚Official Line ID : @rakyimtour Click http://line.me/ti/p/%40rakyimtour
📱โทร. 0942492236 (คุณรักษ์)
📱โทร. 0909914787 (คุณเกด)
📱โทร. 0625672275 (คุณเบล)
ติดตามคลิปรีวิวที่เที่ยวทั่วไทยได้ที่
🎬 ช่อง Youtube #อาหมวยพาเที่ยว
🔔กดติดตาม และ กดกระดิ่ง แจ้งเตือน
💖เพื่อจะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆ ฝากด้วยนะคะ
www.youtube.com/user/rakyimtourbkk/
✈️ติดตาม รักยิ้มทัวร์ ได้ที่
🌎Website: https://www.rakyimtravel.com/ ,https://www.rakyimtour.com/
💻 Facebook: https://www.facebook.com/rakyimtour
📱 Line Official : @rakyimtour -> http://line.me/ti/p/%40rakyimtour
🛒Line My Shop : https://shop.line.me/@rakyimtour
🎬Youtube: https://www.youtube.com/user/rakyimtourbkk/
🎥TikTok : https://www.tiktok.com/@rakyimtour
🖼️ Instagram: https://www.instagram.com/rakyim_tour
📰 Twitter: https://www.twitter.com/rakyimtour1
